ก่อนหน้าที่ท่านจะบวชเป็นพระ ท่านอาศัยอยู่ที่ ประเทศนอร์เวย์ หลวงพี่อายุ 22 ปี ท่านทำงานในแวดวงร้านอาหารมา 2 ปี หลวงพี่ได้เคยเข้าร่วมโครงการบวชมาแล้ว ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2565 และครั้งที่สองคือเดือนกันยายน พ.ศ.2565 หลวงพี่นับถือศาสนาพุทธ
เริ่มหนทางแสวงหาความสงบ
“ผมเริ่มแสวงหาความสงบจากการนั่งสมาธิ ตอนผมยังเด็ก ผมใช้ชีวิตสนุกสนานได้ทุกวัน แต่พอยิ่งโต ก็จะยิ่งเครียด และจริงจังกับชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกสูญเสียความสดใสร่าเริงในวัยเด็กไป ชีวิตเริ่มลำบากขึ้น จนใจไม่หลงเหลือความสะอาดบริสุทธิ์ที่เคยมี ผมมีปัญหาในการใช้ชีวิต ทั้งเครียดและวิตกกังวล รู้สึกหนักอึ้ง จนทำให้ผมหวนหาสิ่งที่ผมทำหล่นหายไป ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้น ทั้งที่ผมก็มีเพื่อนดีๆ มากมาย ชีวิตไม่ได้ตกต่ำย่ำแย่ แต่รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งหายไป”
หลวงพี่ยอมรับกับตัวเองว่าท่านไม่มีความสุขนัก และชวนให้สงสัยกับตัวเองต่อ จนท่านมาพบกับการนั่งสมาธิ ที่สิ่งนี้คือคำตอบในใจท่าน “ผมได้พบกับการทำสมาธิ ซึ่งเป็นสิ่งที่จุดประกายในใจผมและให้คำตอบที่ผมเฝ้าถามหามาตลอด ผมจึงเริ่มหาทางหวนคืนสู่ความสว่าง ความบริสุทธิ์ภายใน ที่ถูกปล่อยให้มืดมิดมาหลายปี แล้วพอได้มาทำสมาธิ ความสว่างและตัวตนดั้งเดิมของผมเริ่มกลับมา ผมนั่งสมาธิไปและใช้ชีวิตไป แต่ยังคงสับสนว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่และจะมุ่งหน้าไปทางไหนกันแน่”
สัญญาของเพื่อนว่า “เราจะบวชด้วยกัน”
หลังจากท่านเรียนจบมัธยมปลาย หลวงพี่ได้ศึกษาต่อในระบบ ‘การศึกษานอกโรงเรียน’ ในประเทศนอร์เวย์ และที่นี่หลวงพี่ได้เริ่มออกสำรวจโลก ได้พบผู้คนมากมาย “เราทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เที่ยวชมธรรมชาติ เล่นสกี และผมได้เจอกับแอนเดรียสที่นี่ เรานั่งสมาธิด้วยกัน คุยกันเรื่องการบวชพระและนัดกันว่าจะไปสมัครบวชด้วยกัน 3 ปีผ่านไป พวกเราก็ได้มาบวชในโครงการนี้จริงๆ”
“ตอนที่ศึกษาต่อในระบบ ‘การศึกษานอกโรงเรียน’ ผมไม่ค่อยมีความสุข รู้สึกว่างเปล่า เหมือนมีสิ่งสำคัญบางสิ่งหายไป คล้ายตัวเองกำลังหลงทาง ผมไม่ใช่คนไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เหมือนยังหาตัวตนไม่เจอ เมื่อผมกับแอนเดรียสเรียนจบ เรายังคงคุยกันเรื่องการนั่งสมาธิ พระพุทธศาสนา และชีวิตพระ ไม่กี่ปีผ่านไป เรารู้สึกว่าต้องเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่างแล้ว ผมจึงศึกษาพระพุทธศาสนาเพิ่มเติม และคิดว่านี่คือสิ่งที่ผมตามหามาโดยตลอด”
หลวงพี่ได้ค้นพบคำสอนของศาสนาพุทธ ความเป็นพระสงฆ์ และเกิดความประทับใจในคำสอน “ในฐานะพระสงฆ์ คุณจะได้ทำความสะอาดใจทุกวัน ได้ชำระมลทินในใจออกเป็นประจำ ผมศึกษาผ่านวิดีโอ Youtube ได้ฟังคำสอนของพระหลายๆ รูป จนไปเจอวิดีโอที่แนะนำว่า ขั้นตอนการบวชพระต้องทำอย่างไร พระใช้ชีวิตอย่างไร ซึ่งน่าสนใจทีเดียว และมีคนที่เคยบวชมาเล่าความประทับใจให้ฟังด้วย เมื่อผมได้เจอคนที่คิดเหมือนกัน ยิ่งทำให้ผมสนใจมากขึ้นไปอีก”
หนทางแห่งความสุขอันแท้จริงของหลวงพี่คริสเตียนจึงได้เริ่มขึ้น
“ในการบวชครั้งแรกนั้น แอนเดรียสยังไม่สะดวกมาบวชพร้อมกัน แต่ผมสมัครแล้วและได้รับการตอบรับจากโครงการ ผมจึงจองตั๋วเครื่องบินมาประเทศไทยทันที”
ประสบการณ์ในการบวชครั้งแรกของหลวงพี่เมื่อได้มาบวชที่ iMONASTERY “เพื่อนๆ ที่ผมมาเจอในโครงการบวชเป็นคนพิเศษมาก เราเข้ากันได้ดีตั้งแต่ต้น ทุกอย่างคือสิ่งใหม่สำหรับผม ผมมาจากประเทศนอร์เวย์และเป็นคนเก็บตัว จึงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวกับวัฒนธรรมใหม่ เมื่อเราได้ทำความรู้จักกันก็รู้สึกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทุกคนรักและปรารถนาดีต่อกัน ทำให้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เราต่างแสวงหาสิ่งเดียวกัน เราให้ความสำคัญกับการเข้าถึงความสว่างและความงามจากภายใน ซึ่งนับเป็นเรื่องวิเศษมาก“
สิ่งที่เกิดขึ้นกับหลวงพี่คริสเตียนหลังจากบวชครั้งแรก
“ในการบวชครั้งแรกนั้น ผมรู้สึกอ่อนไหวมาก ผมปล่อยวางด้วยการให้อภัยแก่ทุกคนที่ผมเคยโกรธหรือไม่พอใจ เมื่อได้บวชแล้ว ผมก็เข้าใจในคำสอนมากขึ้น ยิ่งนั่งสมาธิยิ่งได้คำตอบด้วยตนเองว่า ผมกำลังแสวงหาสิ่งใด”
“ภายในระยะเวลา 1 เดือน เราได้เรียนรู้หลายสิ่ง แต่ผมกลับรู้สึกว่ายังไม่ใช่จุดสิ้นสุด ผมอยากกลับมาบวชอีกครั้ง ยิ่งช่วงท้ายโครงการบวช ผมยิ่งได้คำตอบชัดเจนว่า สิ่งที่ผมแสวงหาคือความสะอาดบริสุทธิ์ของใจ และความรักความเมตตาต่อชีวิตตัวเอง ความรัก ความเมตตา ความสงบ และความสะอาดบริสุทธิ์ คือสิ่งที่ผมแสวงหาและต้องสานต่อ แต่ผมจำเป็นต้องกลับบ้านไปก่อน แล้วผมจะกลับมาเพื่อศึกษาต่อและดูว่าผมจะได้เรียนรู้สิ่งใดอีกบ้าง”
“มันดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก สนุกมาก สบายมากขึ้น ใช้เวลาปรับตัวน้อยลง และสามารถสานต่อจากการบวชครั้งที่แล้วได้เลย”
“ผมเริ่มรู้ตัวว่าเปลี่ยนไปมากตอนกลับบ้าน อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองสงบขึ้น ใจเย็นขึ้น ในใจมีพื้นที่สำหรับความรักความเมตตาไม่เฉพาะกับตัวเอง แต่ยังเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้ด้วย มีความเข้าใจคนอื่นและอดทนได้มากขึ้น ผมมีกระแสพลังดีๆ ในตัวเองเหลือเฟือจนคนอื่นสังเกตได้ หลายสิ่งเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น”